กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. แถลงข่าวจับกุม ผู้ต้องหา จำนวน 14 ราย นำโดย น.ส.ปุณยวีร์ฯ อายุ 47 ปี Mr.Ezeneche (สัญชาติไนจีเรีย) อายุ 45 ปี น.ส.วาสนาฯ อายุ 30 ปี น.ส.ธัญญรัศม์ฯ อายุ 39 ปี และพวกรวม 14 คน เพื่อดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, โดยทุจริตหลอกลวงร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จฯและอีกหลายข้อหา
สืบเนื่องจากประมาณเดือนธันวาคม 2564 – มกราคม 2565 ผู้เสียหายได้ร้องเรียนมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป. ให้ช่วยติดตามจับกุมคนร้าย ที่มีพฤติการณ์หลอกให้หลงรัก โดยใช้ภาพโปรไฟล์เป็นหญิงต่างชาติรูปร่างหน้าตาดี แอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ทหารสาวชาวอเมริกัน ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ในประเทศซีเรีย นอกจากนี้ยังสร้างเรื่องราวว่าจะเดินทางมาประเทศไทย เหตุเพราะประทับใจและตกหลุมรักในตัวผู้เสียหายมาก และต้องการจะส่งพัสดุ ภายในเป็นทรัพย์สินมีค่า มาให้กับผู้เสียหาย แต่มีข้อแม้ คือขอให้ผู้เสียหายช่วยชำระค่าภาษีนำของออกจากสนามบินให้ก่อน หลังจะคืนเงินให้ในภายหลัง
เมื่อผู้เสียหายตกหลุมพรางเชื่อใจเนื่องด้วยความรัก ประกอบกับความสงสาร เป็นเหตุให้ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไปให้ ขณะเดียวกันจะมีคนร้ายอีกคนโทรศัพท์มาหาผู้เสียหาย อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่สนามบินก่อนจะหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยอ้างว่าเหตุผลต่างๆ เช่น เป็นค่าดำเนินการเพื่ออำนวยความสะดวกของเจ้าหน้าที่ของรัฐในประเทศไทยเนื่องจากเป็นการนำเข้าเงินโดยผิดกฎหมาย, ค่าประกันที่ทำสัญญาไว้กับบริษัท, ค่าทนายความ ค่าประกันทรัพย์สิน จนสุดท้ายผู้เสียหายไม่มีเงินจ่าย ก่อนที่คนร้ายก็จะตัดการติดต่อไป พบผู้เสียหายสูญเงินไปล้านกว่าบาท
แนะ วิธีสังเกต ไม่ตกเป็นเหยื่อโจรลวงรักออนไลน์
เตือนภัย! มิจฉาชีพใช้เว็บหาคู่ลวงเหยื่อ หลอกสาวสูญเงิน 10 ล้าน
รวบมิจฉาชีพปลอมเป็น“แพทย์ทหารนาโต”หลอกเหยื่อโอนเงิน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้สืบสวนเส้นทางการเงิน จนพบว่าเงินที่ถูกโอนเข้าบัญชีคนร้ายได้มีการโอนต่อไปอีกหลายบัญชี ก่อนจะถูกโอนไปยังบัญชีชื่อของ น.ส.ปุณยวีร์ฯ (ผู้ต้องหาที่ 1) จากนั้นถูกโอนต่อไปยังบัญชีธนาคารในต่างประเทศ
จากการขยายผลพบอีกว่าตั้งแต่ปี 2561 – 2564 มีเงินหมุนเวียนออกไปยังบัญชีในต่างประเทศรวมกว่า 800 ล้านบาท ซึ่งพยานหลักฐานทำให้ทราบว่า น.ส.ปุณยวีร์ฯ (ผู้ต้องหาที่ 1) มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มชาวต่างชาติสัญชาติไนจีเรีย และยังพบว่ามีเงินโอนมาจากบัญชีของ Mr.Ezeneche (ผู้ต้องหาที่ 2) อีกจำนวนหลายสิบล้านบาท ซึ่งเงินเหล่านั้นได้มาจากการหลอกลวงผู้เสียหายรายอื่นๆในลักษณะเดียวกัน เมื่อพบเส้นทางการเงินว่าเชื่อมโยงกันทั้งหมด ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจึงมีคำสั่งให้โอนย้ายคดีของผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อของแก๊งนี้ทุกรายมายังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหากลุ่มนี้ทันที
ขณะเดียวกัน จากการตรวจสอบประวัติของ Mr.Ezeneche (ผู้ต้องหาที่ 2 ) พบว่าตั้งแต่ปี 2561 เคยถูกดำเนินคดีในความผิดฐานดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่เข็ดหลาบ ยังคงกลับมาก่อเหตุซ้ำซากหลายครั้งคำพูดจาก สล็อตวอเลท
ตำรวจสอบสวนกลาง(CIB) เตือนภัย ฝากเตือนไปถึงพี่น้องประชาชน อย่าเชื่อถือบุคคลที่คุยผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ทั้งที่ไม่ได้เคยได้พบเจอกันมาก่อน เพราะเสี่ยงจะตกเป็นเหยื่อกลโกงที่สร้างเรื่องแสดงความรักความน่าสงสาร ทั้งยังออกอุบายหลอกให้หลงเชื่อ เพื่อให้โอนเงินให้ ซึ่งเป็นต้นตอให้สูญเสียทั้งความรู้สึกและทรัพย์สินได้ ทั้งนี้หากมีความเสียหายที่เกิดจากการหลอกลวงในรูปแบบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสามารถแจ้งความผ่านระบบออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com และสามารถติดตามรูปแบบการประชาสัมพันธ์กลโกงได้ที่ pctpr.police.go.th และเพจตำรวจสอบสวนกลาง